ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ขนาดมาตรฐาน การใช้ BANNER

 ในการจัดทำเว็บไซต์ หลายเว็บคงหนีไม่พ้นการต้องใช้ Banner มาตกแต่งหน้าเว็บ จุดประสงค์หลักของ banner นั้นคือต้องการใช้เป็นพื้นที่สำหรับโฆษณา หรือว่าอาจจะใช้ในการประกาศข่าวก็ได้

เมื่อก่อนการออกแบบ Banner นั้น มีขนาดหลากหลายมาก เรียกว่าแล้วแต่ผู้ออกแบบจะออกแบบกันมาได้เลย จนได้มีหน่วยงานที่ชื่อว่า IAB (Internet Advertising Bureau/Coalition for Advertising Supported Information and Entertainment) ได้ทำการสำรวจ และวิเคราะห์ banner ที่เหมาะสม และได้กำหนดมาตราฐานของ Banner ขึ้นมา ตามนี้

1. ขนาด 728 x 90 pixel หรือที่เรียกกันว่า billboard, banner หรือ super-banner สำหรับวางไว้ด้านบนของเว็บไซต์ เป็นที่นิยมที่สุด

20150211-banner2

2. ขนาด 300 x 250 pixel หรือที่เรียกกันว่า แบนเนอร์จตุรัส , หน้าต่างป็อบอัพ หรือ big box

20150211-banner1

3. ขนาด 160 x 600 pixel หรือที่เรียกว่า Skyscrapers หรือ แบนเนอร์ลอยด้านข้าง

20150211-banner3

นอกจาก ขนาดมาตราฐานข้างต้นแล้ว จริงๆผู้ออกแบบ สามารถใช้ขนาดอื่นๆ ได้ แล้วแต่สถานะการณ์และการออกแบบ ซึ่งยังมีขนาดที่นิยมอีกหลายขนาด และมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป ดังนี้

Rectangles and Pop-Ups แบนเนอร์จตุรัส และหน้าต่างป็อบอัพ

– 300 x 250 IMU – (Medium Rectangle)
– 250 x 250 IMU – (Square Pop-Up)
– 240 x 400 IMU – (Vertical Rectangle)
– 336 x 280 IMU – (Large Rectangle)
– 180 x 150 IMU – (Rectangle)
– 300×100 IMU – (3:1 Rectangle)
– 720×300 IMU – (Pop-Under)

Banners and Buttons แบนเนอร์และปุ่มต่างๆ

– 468 x 60 IMU – (Full Banner)
– 234 x 60 IMU – (Half Banner)
– 88 x 31 IMU – (Micro Bar)
– 120 x 90 IMU – (Button 1)
– 120 x 60 IMU – (Button 2)
– 120 x 240 IMU – (Vertical Banner)
– 125 x 125 IMU – (Square Button)
– 728 x 90 IMU – (Leaderboard)

Skyscrapers แบนเนอร์ลอยด้านข้าง

– 160 x 600 IMU – (Wide Skyscraper)
– 120 x 600 IMU – (Skyscraper)
– 300 x 600 IMU – (Half Page Ad)

ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่มาตรฐานในการนำเสนอโฆษณาแบนเนอร์บนเว็บไซต์ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถปรากฎภาพโฆษณาได้เร็วขึ้น อันเป็นการสร้างการจดจำตัวสินค้าได้เร็ว ตามกระแสการบริโภคเว็บไซต์ที่เร่งรีบและฉาบฉวย

โดยแนะนำเวลาในการนำเสนอโฆษณาแบบอนิเมชั่น (เคลื่อนไหว) เอาไว้ไม่เกิน 15 วินาที และขนาดไฟล์ในการโหลดแบนเนอร์ไม่เกิน 30-40 kb. ต่ำสุด 10 kb. สำหรับแบนเนอร์ Micro Bar

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ความกว้างของแบนเนอร์โฆษณา ตามมาตรฐานมักจะไม่เกิน 728 พิคเซล ก็น่าสงสัยว่าทำไมไม่กำหนดให้เป็นทศนิยมหลักสิบ ปัดเศษให้เป็น 730 พิคเซลไปเลย วันหนึ่งเป็นต้องถึงบางอ้อ

เหตุผลก็คือ เพื่อรองรับหน้าเว็บไซต์เวลาสั่งพิมพ์ผ่านทางเครื่องพิมพ์ปริ้นท์เตอร์ (Printer) นั่นเอง เวลาพิมพ์ออกมาจะเห็นความกว้าง และความยาวของแบนเนอร์พอดีกับหน้ากระดาษ ไม่เกินจนขาดหายไป

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.iab.net/wiki/index.php/Ad_banner , ค้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558.
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.oknation.net/blog/kittinunn/2009/02/23/entry-1 , ค้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558.
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ http://th.wikipedia.org/wiki/เว็บแบนเนอร์ , ค้นเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเขียนคำโฆษณาให้ดึงดูดผู้บริโภค

1.สร้างอารมณ์ร่วม ลองคิดดู หากบทความ โฆษณา นั้นราบเรียบจืดชืดแล้วใครจะอยากอ่านแล้วใครจะอินจนอยากซื้อสินค้าของคุณไปใช้กันล่ะ บางทีการสร้างอารมณ์ให้ผู้อ่านหรือผู้พบเห็นมีความรู้สึกร่วมไปกับบทความนั้นเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง และมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จสูง เพราะถึงคนส่วนใหญ่จะใช้ตรรกะและเหตุผลต่างๆ ในการตัดสินใจก็เถอะ แต่หากคุณมีอารมณ์อินกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแล้ว การใช้ตรรกะก็จะน้อยลงแล้วอารมณ์ร่วมก็จะมีมากกว่า โดยมีการวิจัยหลายสำนักชี้ให้เห็นว่า การตอบสนองทางอารมณ์จะมีผลต่ออการตัดสินใจอย่างมาก โดยเฉพาะ Print Ads ที่ในความจริงแล้วมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้บริโภคได้ดีกว่่า โดย 3 สิ่งนี้อาจจะช่วยคุณได้ 1.1 อารมณ์ของลูกค้า คุณต้องดูก่อนว่าแบรนด์ของคุณจะต้องการสร้างอารมณ์ไปในทิศทางไหน จนกลุ่มเป้าหมายจะสามารถอินไปกับมันได้ ในปัจจุบัน TVC ทั้งหลายพยายามที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะเป็นความเชื่อใจ ความกลัว ความรักเป็นต้น ลองดูว่าสินค้าของคุณจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง 1.2 Headline หัวข้อหรือพาดหัวมักจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่คนทั่วไปเห็นเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นคุณ...

Facebook เปลี่ยนวิธียิงโฆษณายกแผง ทุ่มเงินไปยอดขายไม่มา ถ้าคุณไม่มีสิ่งเหล่านี้

“… WE’RE CONSTANTLY EVOLVING OUR AD PLATFORM, WHICH MEANS THAT OUR METRICS MUST EVOLVE …” ด้านบน คือ ข้อความเกริ่นนำในประกาศการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานของเครื่องมือโฆษณา Facebook หรือ Facebook Ad ครั้งล่าสุดผ่านทาง  เว็บไซต์ Facebook Business  เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 Facebook มีการเลือกใช้คำศัพท์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างน่าสนใจ เพราะ Software developer โดยทั่วไปอาจใช้คำว่า Develop หรือ Improve เมื่อจะมีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงระบบ แต่ Facebook ใช้คำว่า  Evolve  หรือ  การวิวัฒนาการ  ไปอีกขั้น — CEOblog จะพาไปวิเคราะห์ว่า ‘ การ Evolve ในครั้งนี้ ’ อาจส่งผลกระทบกับ Advertiser อย่างไรบ้าง ถอน 1 เมทริกเก่า เพิ่ม 3 เมทริกใหม่ ถอน 1 เมทริกเก่า ได้แก่: Facebook แจ้งว่าจะทำการถอน เมทริก (Metric) เก่าออกจำนวน 1 รายการ ได้แก่  Relevance Score เมทริกที่ใช้บอกว่า โฆษณาของ Advertiser ตรงกลุ่มเป้าหมายมากแค่ไหน โดยมีหลักการวัดผลคร่าว ๆ จาก การตอบสนองของ Target audience ที่เห็นโฆษณา เช่น Emotion เป็นอย่างไร Like, Love หรือ Angry มีการ Share หร...

อ่านให้รู้ กับโฆษณายูทูป

เรียนรู้ โฆษณายูทูป (Youtube) แต่ละแบบ เว็บที่ให้บริการแลกเปลี่ยนความรู้ โฆษณาบนยูทูป (Youtube)เว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนคลิปวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี ทำให้ ยูทูป (Youtube) เป็นเว็บไซต์ที่ยอดนิยมสำหรับทุกเพศทุกวัยเลย และ ยูทูป (Youtube) ยังเป็นเว็บไซต์ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ รวมไปถึงความบันเทิง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆคนอาจจะรู้สึกขัดตาขัดใจเวลาดูคลิปวิดีโอบน ยูทูป (Youtube) นั้นก็คือ….. โฆษณายูทูป (Youtube ! ) แต่ในทางกลับนักการตลาด และผู้คนสายโฆษณานั้น ไม่รู้สึกขัดใจกับ โฆษณายูทูป (Youtube) เลย แต่กลับชื่นชอบ เพราะจะได้มีช่องทางในการลงสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น และยังสามารถเข้าถึงผู้คนเป็นจำนวนมากส่วนโฆษณาบน Youtube นั้นจะมีอะไรบ้าง นักการตลาด และผู้คนสายโฆษณาคงอยากรู้ไม่น้อย เรามาไขข้อข้องใจกันเลยดีกว่า 1. Masthead คือ โฆษณาที่สามารถเห็นได้ในหน้าแรกของ ยูทูป (Youtube) 2. Display Ads (Banners) คือ โฆษณาแบบแบนเนอร์ที่จะอยู่ตรงข้างๆวิดีโอหลักที่เปิดใช้งานอยู่ 3. Overlay – in – Video Ads คือ ป้ายโฆษณา หรือแบนเนอร์ ...