1.สร้างอารมณ์ร่วม
ลองคิดดู หากบทความโฆษณานั้นราบเรียบจืดชืดแล้วใครจะอยากอ่านแล้วใครจะอินจนอยากซื้อสินค้าของคุณไปใช้กันล่ะ บางทีการสร้างอารมณ์ให้ผู้อ่านหรือผู้พบเห็นมีความรู้สึกร่วมไปกับบทความนั้นเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง และมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จสูง เพราะถึงคนส่วนใหญ่จะใช้ตรรกะและเหตุผลต่างๆ ในการตัดสินใจก็เถอะ แต่หากคุณมีอารมณ์อินกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแล้ว การใช้ตรรกะก็จะน้อยลงแล้วอารมณ์ร่วมก็จะมีมากกว่า โดยมีการวิจัยหลายสำนักชี้ให้เห็นว่า การตอบสนองทางอารมณ์จะมีผลต่ออการตัดสินใจอย่างมาก โดยเฉพาะ Print Ads ที่ในความจริงแล้วมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้บริโภคได้ดีกว่่า โดย 3 สิ่งนี้อาจจะช่วยคุณได้
1.1 อารมณ์ของลูกค้า
คุณต้องดูก่อนว่าแบรนด์ของคุณจะต้องการสร้างอารมณ์ไปในทิศทางไหน จนกลุ่มเป้าหมายจะสามารถอินไปกับมันได้ ในปัจจุบัน TVC ทั้งหลายพยายามที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะเป็นความเชื่อใจ ความกลัว ความรักเป็นต้น ลองดูว่าสินค้าของคุณจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง
คุณต้องดูก่อนว่าแบรนด์ของคุณจะต้องการสร้างอารมณ์ไปในทิศทางไหน จนกลุ่มเป้าหมายจะสามารถอินไปกับมันได้ ในปัจจุบัน TVC ทั้งหลายพยายามที่จะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะเป็นความเชื่อใจ ความกลัว ความรักเป็นต้น ลองดูว่าสินค้าของคุณจะไปในทิศทางไหนได้บ้าง
1.2 Headline
หัวข้อหรือพาดหัวมักจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่คนทั่วไปเห็นเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกใช้คำที่ชัดเจน เข้าใจง่ายและดึงดูดให้ผู้พบเห็นคลิกเข้ามาอ่านต่อให้ได้
หัวข้อหรือพาดหัวมักจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่คนทั่วไปเห็นเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกใช้คำที่ชัดเจน เข้าใจง่ายและดึงดูดให้ผู้พบเห็นคลิกเข้ามาอ่านต่อให้ได้
1.3 Call to action
Call to Action จะวัดผลได้ว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับบทความของเราจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครรีบอีเมลหรือการตัดสินใจซื้อก็ตาม
Call to Action จะวัดผลได้ว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับบทความของเราจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครรีบอีเมลหรือการตัดสินใจซื้อก็ตาม
2.สร้างบทสนทนา
บางทีหากข้อความโฆษณาของคุณเป็นบทความยาวๆ ผู้อ่านก็อาจจะเข้าถึงได้ยาก บางทีคุณอาจจะทำให้มันดูเป็นบทสนทนาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ผู้อ่านได้เข้าใจ มีอารมณ์ร่วม และอาจจะสื่อสารกับผู้บริโภคได้ดีกว่า โดยคุณต้องทำให้ตรงประเด็น และรูปประโยคไม่ยาวจนเกินไป ไม่เช่นนั้นมันก็จะไม่ต่างอะไรกับการที่คุณทำเป็นบทความยาวๆ
บางทีหากข้อความโฆษณาของคุณเป็นบทความยาวๆ ผู้อ่านก็อาจจะเข้าถึงได้ยาก บางทีคุณอาจจะทำให้มันดูเป็นบทสนทนาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ผู้อ่านได้เข้าใจ มีอารมณ์ร่วม และอาจจะสื่อสารกับผู้บริโภคได้ดีกว่า โดยคุณต้องทำให้ตรงประเด็น และรูปประโยคไม่ยาวจนเกินไป ไม่เช่นนั้นมันก็จะไม่ต่างอะไรกับการที่คุณทำเป็นบทความยาวๆ
3. ทำให้ง่าย
คุณต้องทำให้แบรนด์ของคุณเองดูง่าย เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะการนำเสนอของคุณเอง เช่น หากคุณต้องทำโฆษณาบน Print Ad คุณต้องทำให้สินค้าคุณดูเด่น และข้อมูลต่างๆ ต้องไม่รก คุณต้องย่อยให้รายละเอียดต่างๆ ดูง่ายและไม่เยอะจนเกินไป หรือแม้แต่การพาดหัวข้อ คุณอาจจะทำเป็นตัวหนา เพื่อให้หัวข้อเด่นสะดุดตา และเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วว่าคุณกำลังจะสื่ออะไร
คุณต้องทำให้แบรนด์ของคุณเองดูง่าย เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะการนำเสนอของคุณเอง เช่น หากคุณต้องทำโฆษณาบน Print Ad คุณต้องทำให้สินค้าคุณดูเด่น และข้อมูลต่างๆ ต้องไม่รก คุณต้องย่อยให้รายละเอียดต่างๆ ดูง่ายและไม่เยอะจนเกินไป หรือแม้แต่การพาดหัวข้อ คุณอาจจะทำเป็นตัวหนา เพื่อให้หัวข้อเด่นสะดุดตา และเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วว่าคุณกำลังจะสื่ออะไร
จากทั้ง 3 ข้อเป็นเพียงองค์ประกอบบางส่วนที่จะช่วยให้งานโฆษณาของคุณมีสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทุกวิธีล้วนแล้วแต่มีขั้นตอนการทำที่ไม่ง่าย(อย่างที่เราต้องการจะสื่อให้ผู้บริโภคเห็น) คุณต้องทุ่มทั้งแรงสมอง ความคิดสร้างสรรค์ คอยตามเทรนด์ และคอยศึกษากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่เสมอด้วย
มาจาก marketing-oops.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น