ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

7 สิ่งที่ต้องปรับความเข้าใจ ในการทำ Content Marketing

1. ทำคอนเทนต์เยอะ ๆ คนจะได้เห็นเยอะ ๆ

ความจริง : คอนเทนต์ที่เยอะแต่ขาดคุณภาพ ตอบสนองไม่ดีเท่าคอนเทนต์คุณภาพ
แต่คุณภาพมันเป็นยังไงละ ? ผมขออ้างอิงจากผลวิจัยของ Google นะครับแบบคร่าวๆ ที่พอจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นดังนี้
Useful คือ มีประโยชน์และให้ข้อมูล
More valuable มีประโยชน์อาจจะยังไม่พอ จะต้องมีประโยชน์มากกว่าแหล่งอื่นๆ
Credible คอนเทนต์จะต้องน่าเชื่อถือได้ และควรจะมีการอ้างอิงแหล่งที่มา
High Quality คอนเทนต์ของคุณควรที่จะไม่ซ้ำใคร ไม่ใช่แห่ทำตามๆ กันไป
Engaging คอนเทนต์ของคุณต้องน่าเสพ ควรที่จะใส่รูป ใส่สีเทคนิคที่แตกต่างลงไปในภาพนั้น และภาษาก็ควรจะใช้ให้ถูกต้องไม่วิบัติ

2. ต้องทำให้เกิด Viral คนจะได้แชร์กันเยอะ ๆ

ความจริง : คอนเทนต์ไม่ควรจะเป็นแค่จำนวนคนที่เห็นคอนเทนต์ (ยอด Reach)คนมาปฏิสัมพันธ์ (ยอด Engagement ) หรือยอดไลค์แชร์ต่าง ๆ
สิ่งที่คุณควรจะวัดคือค่า Conversion หลังจากที่คนดูคอนเทนต์นั้นๆ แล้ว คุณได้ลูกค้าที่มาจากคอนเทนต์นั้นๆ เท่าไหร่ การที่จะทำให้เกิด Conversion นั้น สิ่งที่คุณต้องใส่เอาไว้ในคอนเทนต์ คือ “Call to action” หรือแปลเป็นไทยว่า
“สิ่งที่คุณอยากจะให้คนเสพคอนเทนต์ของคุณทำต่อไป”
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นร้านค้าขายของออนไลน์ ก็อาจจะเป็น ปุ่มเชิญให้ไปซื้อของบนเว็บไซต์ คูปองส่วนลด หรือแอดไลน์เข้าไปทักทายซื้อสินค้าราคาพิเศษ
ถ้าคุณเป็นบริษัทที่ปรึกษาก็อาจจะเป็นแบบฟอร์มติดต่อขอรับคำปรึกษา
บล็อกเกอร์ก็อาจจะเป็นปุ่มแอดไลน์เพื่อรับคอนเทนต์ดี ๆ ข่าวสารเพิ่มเติม
คุณไม่ควรจะปล่อยลูกค้าให้คาดเดาเองว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป คุณจะต้องกำหนดเส้นทางให้เขา เพื่อให้เขาไม่หลงทางเมื่อเข้ามาหาคุณ อย่าทำตัวเป็นสวนสนุกที่ซื้อบัตรแล้วคุณไม่บอกแผนที่ว่าเครื่องเล่นแต่ละชนิดอยู่ตรงไหนนะครับ

3. คอนเทนต์มีไว้เพื่อขาย

ความจริง : แน่นอนว่าคอนเทนต์เพื่อขาย อย่างหน้า สินค้า สั่งซื้อ หรือใบเสนอราคานั้นจำเป็น เพราะไม่มีธุรกิจใดอยู่ได้ด้วยการไม่ขาย แต่ถ้าคุณมีแต่คอนเทนต์ ขาย ขาย ขาย และก็ขาย สุดท้ายแล้วคนก็จะเบื่อกับการขายของคุณ และมันก็จะทำให้คุณขายไม่ได้
สิ่งที่คุณควรจะต้องรู้จักและทำความเข้าใจคือ Buyer’s Journey ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก คือ Awareness, Consideration และ Decision
Decision นั้น ลูกค้าของคุณพร้อมที่จะซื้อของของคุณแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำนั้นก็คือการขาย พร้อมกับตอบข้อสงสัย หรือคำถามต่างๆ ข้อมูลสินค้า
Consideration ลูกค้าของคุณกำลังพิจารณาทางเลือกของพวกเขาอยู่ ในขั้นนี้สิ่งที่คุณควรทำก็คือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของคุณ รวมถึงทำให้ลูกค้าเชื่อว่าของของคุณดีจริง ๆ
Awareness คือ การทำให้ลูกค้ารู้จักคุณ รู้จักกับสินค้าของคุณ ซึ่งการทำ Awareness ที่ดีนั้นมันไม่ควรจะเป็นแค่การบอกให้ลูกค้ารู้ว่าคุณขายสินค้าอะไร แต่ควรจะเป็นการบอกว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้นำในเรื่องอะไร

4. คอนเทนต์ที่ดีต้องตามกระแส

ความจริง : คอนเทนต์ที่ตามกระแสนั้นมีข้อดีคือมีความสดใหม่ และกำลังอยู่ในความสนใจของผู้คน แต่ว่าอายุของมันสั้นยิ่งนัก
คอนเทนต์ที่นำเทรนด์ ตามกระแสนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยเรียก Traffic ได้ดี ซึ่งเรียกว่า Topical Content และคอนเทนต์อีกรูปแบบที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งเรียกว่า Evengreen Content หรือคอนเทนต์ที่ไม่เสื่อมค่าตามกาลเวลา เช่น ถ้าคุณจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับบอลโลกในช่วงนี้
Topical Content ก็จะเป็น “กรุ๊ปออฟเดท ใครจะอยู่ใครจะไป ร่วมกิจกรรมทายผลชิงรางวัล” คอนเทนต์ลักษณะนี้จะได้รับความสนใจแต่จะอยู่ไม่นาน
Evergreen Content ก็จะเป็น “10 สุดยอดประตูทองคำที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอล” คอนเทนต์นี้ต่อให้เวลาผ่านไป แต่ก็จะยังสามารถเรียกความสนใจของคนดูได้เรื่อย ๆ

5. คอนเทนต์คือราชา ทำดีๆ เดี๋ยวคนก็มาเอง

ความจริง : ทำคอนเทนต์ออกมาให้ดีๆ เดี๋ยวคนก็ไลค์ คอมเมนต์ แชร์ กันถล่มทลายเอง! ขอบอกว่าไม่จริงเสมอไปครับ คอนเทนต์ที่ดีจริงๆ ต้องมาพร้อมกับการโปรโมตฯ
การโปรโมตคอนเทนต์ที่คุณทำขึ้นมานั้นสำคัญมาก ๆ วิธีการโปรโมตที่ง่ายและเร็วที่สุดนั่น คือ การซื้อโฆษณา เพราะต่อให้คุณทำดีแค่ไหน คอนเทนต์นั้นไม่มีคนเห็น มันไม่มีวันที่จะมีคนแชร์ แน่นอนครับ อันนี้ยืนยันได้เลย

6. การทำคอนเทนต์ = การทำ Content Marketing

ความจริง : หลายคนเข้าใจว่า การเขียนบทความ การอัดวีดีโอ หรือการทำรูปขึ้นมา นั้นก็คือการทำ Content Marketing แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าการผลิตคอนเทนต์นั้นจะเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ แต่มันก็ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการทำ Content Marketing เท่านั้น
การทำ Content Marketing มีองค์ประกอบอีกมากมายตั้งแต่ Content Strategy, การตั้ง Target การสร้าง Buyer Persona, Buyer’s Journey ไปจนถึงการทำเพื่อให้ได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ การที่คุณคิดว่า ทำคอนเทนต์ ไปเรื่อยๆ แล้วมันจะปังหรือขายอะไรได้สักอย่างง่ายๆ นั่นเป็นสิ่งเข้าใจผิด…

7. คอนเทนต์ดีๆ ให้ผลทันตาเห็น

ความจริง : เริ่มทำคอนเทนต์วันนี้ พรุ่งนี้ยอดขายพุ่งพรวด… การทำคอนเทนต์ไม่ใช่สิ่งที่เห็นผลลัพท์ในทันที ถ้าคุณหวังผลในเชิงผลตอบแทนที่เป็นรูปแบบของตัวเงินจากการทำคอนเทนต์ตั้งแต่วันแรก หรือเดือนแรก แสดงว่าคุณกำลังใช้
วิธีคิดแบบการซื้อโฆษณา ที่เห็นผลแบบทันที วัดผลการทำคอนเทนต์
ถ้าคุณตั้งใจว่าจะใช้คอนเทนต์เป็นศูนย์กลางของการทำการตลาดและคุณวางแผนได้ดี และสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ มันจะเริ่มเห็นผลจากการทำคอนเทนต์ภายใน 3 ถึง 4 เดือน (ผ่าน Social Media และถูกค้นจาก Search Engine)
แต่ถ้าคุณต้องการให้เห็นผลแบบเห็นได้ชัด คุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นหลักปี เพราะนอกจากที่คุณจะต้องสร้าง Traffic และ Leads แล้ว สิ่งที่คุณต้องสร้างก็คือ Authority คือ การได้ยอมรับว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ หรือของสิ่งนั้นมันจริง!! ไม่ได้กำมะลอมาแต่อย่างใด
บทความนี้ อาจช่วยให้คุณเห็นภาพ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ Content Marketing เป็นรูปธรรม ไม่มากก็น้อยนะครับ หากมีประโยชน์ก็อย่าลืมแชร์ในสิ่งดีๆ เหล่านี้นะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การตลาดออนไลน์ การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ประเภทของสื่อออนไลน์

 การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การทำการตลาดในสื่อออนไลน์ เช่น โฆษณา Facebook, โฆษณา Google, โฆษณา Youtube, โฆษณา Instagram ฯลฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยใช้วิธีต่างๆ ในการโฆษณาเว็บไซต์ หรือโฆษณาขายสินค้าที่จะนำสินค้าของเราไปเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้  https://www.adgroupszone.com/

📣6 ขั้นตอน ลงโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform

  📣6 ขั้นตอน ลงโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform ปัจจุบันช่องทางการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การลงโฆษณาบน LINE ก็เป็นอีก application ที่คนนิยมให้ความสนใจมาก โดยโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform เพียงทำได้ง่าย ๆ แค่ 6 ขั้นตอน 1. เข้าไปที่ admanager.line.biz เลือกเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE ส่วนตัว หรือบัญชีธุรกิจหากต้องการใช้อีเมลกลางของบริษัท 2. สร้างบัญชีโฆษณา 1 บัญชี LINE สามารถมีได้หลายบัญชีผู้ใช้โฆษณา โดย 1 บัญชีโฆษณาจะเชื่อมกับ 1 LINE OA เท่านั้น 3. เริ่มลงโฆษณา โดยเลือก ‘สร้างแคมเปญ’ เลือกวัตถุประสงค์แคมเปญที่เหมาะสมพร้อมระบุงบประมาณและระยะเวลาแคมเปญ 4. สร้าง ‘กลุ่มโฆษณา’ หรือกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือกเพศ อายุ ความสนใจ หรือสร้างกลุ่มเป้าหมายได้เอง ด้วยข้อมูลของลูกค้าที่คุณมีก็ได้ เช่น กลุ่มเป้าหมายจาก LINE OA, เบอร์โทร หรืออีเมล 5. กำหนดราคาเสนอและงบประมาณรายวัน ระบุราคาประมูลเพื่อโฆษณาขึ้นไปยังที่ต่างๆ บน App LINE เช่น LINE TODAY, LINE TIMELINE, LINE TV เป็นต้น 6. ใส่รูปภาพและข้อความเพื่อ ‘สร้างโฆษณา’ สามารถใช้เป็นภาพเดี่ยว, ภาพสไลด์ หรือวิดีโอ ที่น่าสนใจดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้เลย...

ขยายธุรกิจของคุณด้วย โฆษณา เลย

 ขยายธุรกิจของคุณด้วย โฆษณา เลย  เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายและกระตุ้นให้เกิดผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวจัดการ โฆษณา บนเว็บไซต์ ด้วยฐานผู้ชมที่กว้างขวางของเราและเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ทุกคนจึงสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดได้